องุ่น

ประวัติความเป็นมาขององุ่น
ประวัติความเป็นมาขององุ่น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าหลงใหลที่มีอายุนับพันปี การเพาะปลูกองุ่น เริ่มต้นเมื่อประมาณ 6,000-8,000 ปีก่อนในภูมิภาคที่เรียกว่า Fertile Crescent ซึ่งรวมถึงอิหร่าน อิรัก และ อียิปต์ในปัจจุบัน เป็นที่รู้กันว่าชาวอียิปต์โบราณ ปลูกองุ่น และ ผลิตไวน์ ตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล
ในศตวรรษที่ 17 และ 18 ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปได้นำองุ่นมายังอเมริกา ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งไร่องุ่น ในภูมิภาคต่างๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย อาร์เจนตินา และชิลี ปัจจุบัน ภูมิภาคเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านการผลิต ไวน์
ความก้าวหน้าในการปลูกองุ่นและเทคนิคการผลิตไวน์มีอย่างต่อเนื่องตลอดประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนา พันธุ์องุ่นใหม่ๆ และ วิธีการเพาะปลูกองุ่น ที่ได้รับการปรับปรุง และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี องุ่นไม่เพียงแต่ใช้ในการผลิตไวน์เท่านั้น แต่ยังใช้เป็นผลไม้สด ตากแห้งเป็น ลูกเกด และใช้ในการผลิตน้ำผลไม้ เยลลี่ และ อาหารรสเลิศต่างๆ
สายพันธุ์องุ่นยอดนิยม ที่ใช้สำหรับทำไวน์

องุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกเพื่อผลิตไวน์มากที่สุดในโลก องุ่นแต่ละสายพันธุ์มีรสชาติ สีสัน และ คุณสมบัติที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ไวน์แต่ละชนิดมีรสชาติ และ เอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่อไปนี้คือ สายพันธุ์องุ่นยอดนิยม ที่ใช้สำหรับทำไวน์
- กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากที่สุดในโลก พบได้ทั่วไปในภูมิภาคบอร์โดซ์ของฝรั่งเศส องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์สีแดงที่มีรสชาติเข้ม เข้มข้น มีรสฝาด และกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น เชอร์รี่ แบล็คเคอร์แรนท์ และพลัม
- ซีราส (Syrah) หรือ ชีราซ (Shiraz) เป็นองุ่นพันธุ์พื้นเมืองของฝรั่งเศส พบได้ทั่วไปในภูมิภาคโรน องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์สีแดงที่มีรสชาติเข้ม เข้มข้น มีรสฝาด และกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ ดาร์กช็อกโกแลต และเครื่องเทศ
- แมร์โล (Merlot) เป็นองุ่นพันธุ์ที่เติบโตได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์ พบได้ทั่วไปในภูมิภาคบอร์โดซ์ของฝรั่งเศส องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์สีแดงที่มีรสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม มีรสฝาดเล็กน้อย และกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่
- ปิโน นัวร์ (Pinot Noir) เป็นองุ่นพันธุ์ที่เติบโตยาก พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเบอร์กันดีของฝรั่งเศส องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์สีแดงที่มีรสชาติอ่อน นุ่มนวล มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย และกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่
- โซวีญง บล็อง (Sauvignon Blanc) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากที่สุดในโลก พบได้ทั่วไปในภูมิภาคโซนฮัง (Sauvignon Blanc) ของฝรั่งเศส องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติสดชื่น เปรี้ยวแหลม มีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น มะนาว เกรปฟรุต และแอปริคอต
- ชาร์ดอเน (Chardonnay) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากที่สุดในโลก พบได้ทั่วไปในภูมิภาคแชมเปญของฝรั่งเศส องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติหลากหลายตั้งแต่แห้งไปจนถึงหวาน มีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล พีช และวานิลลา
- รีสลิง (Riesling) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากในเยอรมนี องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติหลากหลายตั้งแต่หวานไปจนถึงแห้ง มีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น ส้ม เลมอน และดอกไม้
- เกลียรา (Glera) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากในอิตาลี องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติสดชื่น เปรี้ยวแหลม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น มะลิ และดอกกุหลาบ
- เซมิยอง (Semillon) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากในออสเตรเลีย องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติหวาน มีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล พีช และดอกไม้
- โมกาโต้ (Moscato) เป็นองุ่นพันธุ์ที่ปลูกกันมากในอิตาลี องุ่นพันธุ์นี้ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติหวาน มีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น มะลิ และดอกกุหลาบ
นอกจาก 10 สายพันธุ์องุ่นยอดนิยมข้างต้นแล้ว ยังมีองุ่นพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้สำหรับทำไวน์
พันธุ์องุ่นปลูกกินผล

องุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกกันแพร่หลายทั่วโลก มีทั้งพันธุ์ที่ปลูกเพื่อรับประทานผลสด พันธุ์ที่ปลูกเพื่อทำไวน์ และพันธุ์ที่ปลูกเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำองุ่น แยมองุ่น องุ่นแห้ง สำหรับพันธุ์องุ่นปลูกกินผล นั้น มีอยู่มากมาย แต่ละพันธุ์มีรสชาติ สีสัน และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือ 10 พันธุ์องุ่นปลูกกินผลยอดนิยมทั่วโลก
- บิวตี้ซีดเลส (Beauty Seedless) เป็นองุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด ผลมีสีดำหรือแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง
- ลูสเพิลเล็ต (Loose Perlette) เป็นองุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด ผลมีสีเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น รับประทานง่าย
- ชินเซน (Shinsen) เป็นองุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด ผลมีสีเขียว รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น รับประทานง่าย
- ไวท์มะละกา (White Malaka) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น รับประทานง่าย
- องุ่นดำเกาะช้าง (Black Koh Chang) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีดำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกหนา เนื้อแน่น ทนทานต่อโรคและแมลง
- องุ่นแดงจักรพรรดิ (Red Emperor) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีแดงเข้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกหนา เนื้อแน่น ทนทานต่อโรคและแมลง
- องุ่นดำภูเก็ต (Black Phuket) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีดำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น
- องุ่นขาวภูเก็ต (White Phuket) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น
- องุ่นดำเบอร์ลิน (Black Berlin) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีดำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น
- องุ่นแดงอิตาลี (Italian Red) เป็นองุ่นพันธุ์มีเมล็ด ผลมีสีแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อแน่น
นอกจาก 10 พันธุ์องุ่นข้างต้นแล้ว ยังมีองุ่นพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ปลูกกินผลทั่วโลก เช่น องุ่นพันธุ์ ชิลี บูล (Chilean Bull) องุ่นพันธุ์ มูสคาเดล (Muscat) องุ่นพันธุ์ รีโวลเวอร์ (Revolver) องุ่นพันธุ์ ซันนิเด (Sundia) เป็นต้น
ในการเลือกพันธุ์องุ่นปลูกกินผล สิ่งสำคัญคือต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและพื้นที่ปลูก พันธุ์องุ่นบางพันธุ์ต้องการอากาศเย็น เช่น องุ่นดำเกาะช้าง องุ่นแดงจักรพรรดิ ในขณะที่พันธุ์องุ่นบางพันธุ์ต้องการอากาศร้อน เช่น องุ่นดำภูเก็ต องุ่นขาวภูเก็ต นอกจากนี้ ควรเลือกพันธุ์องุ่นที่มีคุณภาพดี ผลมีขนาดใหญ่ รสชาติอร่อย ทนทานต่อโรคและแมลง
ประโยชน์และสรรพคุณขององุ่น

องุ่นเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีน้ำตาล วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก องุ่นช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย และขับปัสสาวะ องุ่นยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง
ประโยชน์ขององุ่น
- บำรุงร่างกาย องุ่นเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำตาล วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
- บำรุงสมอง องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากการถูกทำลาย ช่วยบำรุงสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บำรุงหัวใจ องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- แก้กระหาย องุ่นมีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยแก้กระหายได้ดี
- ขับปัสสาวะ องุ่นมีสารโพแทสเซียมสูง ช่วยขับปัสสาวะ
สรรพคุณขององุ่น
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจ องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
- ช่วยบำรุงสายตา องุ่นมีสารลูทีนและซีแซนทีนสูง ช่วยปกป้องดวงตาจากรังสียูวี
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ องุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยและจุดด่างดำ
- ช่วยลดน้ำหนัก องุ่นมีใยอาหารสูง ช่วยทำให้อิ่มนาน ช่วยลดการรับประทานอาหารจุบจิบ
ข้อควรระวังในการรับประทานองุ่น
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรรับประทานองุ่นในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากองุ่นมีน้ำตาลสูง องุ่นมีความอร่อยและมีประโยชน์สำหรับสุขภาพ แต่เมื่อคุณเป็นผู้ที่มีโรคเบาหวาน ควรระมัดระวังและ ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดในระดับที่เหมาะสม และ ปรับเปลี่ยนแผนการรับประทานให้เหมาะสมกับสภาพของคุณเอง
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม :: fruitylove