กีวี่

กีวี่
กีวี่คืออะไร
กีวี่เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีลักษณะเป็นผลกลม ขนาดประมาณไข่ไก่ เปลือกสีน้ำตาล และ มีขนอ่อน ๆ เนื้อมีสีเขียวอมเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีวิตามินซีสูง

ประโยชน์ของกีวี่
กีวี เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค ใยอาหาร โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ กีวีมีสรรพคุณมากมาย เช่น
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
กีวีมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสามารถต้านทานต่อเชื้อโรคและการติดเชื้อต่างๆ - ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหวัด
กีวีมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคหวัด - ช่วยลดความดันโลหิต
กีวีมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
กีวีมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยดูดซับคอเลสเตอรอลส่วนเกินในร่างกายและขับออกทางอุจจาระ - ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
กีวีมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก - ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
กีวีมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส

นอกจากนี้ กีวียังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสายตา และช่วยชะลอความแก่ เป็นต้น
สายพันธุ์ของกีวี่
กีวีมีหลากหลายสายพันธุ์ ที่นิยมปลูกในประเทศไทย ได้แก่
- กีวีเขียว (Green Kiwi) มีเปลือกสีเขียว เนื้อสีเขียวอมเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- กีวีสีทอง (Gold Kiwi) มีเปลือกสีน้ำตาล เนื้อสีเหลืองทอง รสชาติหวานกว่ากีวีเขียว
- กีวีไร้ขน (Hairless Kiwi) มีเปลือกสีน้ำตาล ไม่มีขนอ่อนๆ รสชาติหวานกว่ากีวีเขียวและกีวีสีทอง

การปลูกกีวี่
การเตรียมพื้นที่ปลูก

กีวี่เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน การปลูกกีวี่ในประเทศไทยนิยมปลูกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การเตรียมพื้นที่ปลูก
ก่อนปลูกกีวี่ ควรเตรียมพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม โดยพื้นที่ปลูกควรมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีค่า pH 5.5-6.5
การเตรียมต้นพันธุ์
ต้นพันธุ์กีวี่สามารถซื้อได้จากร้านขายต้นไม้หรือสวนพฤกษศาสตร์ ต้นพันธุ์กีวี่ควรมีอายุอย่างน้อย 1 ปี
การปลูก
การปลูกกีวี่ควรปลูกในช่วงฤดูฝน การปลูกกีวี่ทำได้ดังนี้
- ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในหลุมปลูก
- นำต้นพันธุ์ลงปลูกในหลุมปลูก
- กลบดินให้แน่น และรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา

การดูแลรักษา
การดูแลรักษากีวี่ทำได้ดังนี้
- การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อน
- การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1-2 กิโลกรัม
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การตัดแต่งกิ่ง ควรตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคหรือกิ่งที่แห้งตายออก
การเก็บเกี่ยว
กีวี่จะพร้อมเก็บเกี่ยวเมื่อเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและนิ่ม การเก็บเกี่ยวกีวี่ทำได้ดังนี้
- ใช้กรรไกรตัดผลกีวี่ออกจากต้น
- คัดแยกผลกีวี่ที่สมบูรณ์และไม่มีตำหนิ
- บรรจุผลกีวี่ลงในกล่องหรือถุงพลาสติก
โรคและแมลงศัตรูพืช
กีวี่อาจเกิดโรคและแมลงศัตรูพืชได้ เช่น
- โรคราแป้ง เกิดจากเชื้อรา ทำให้ใบและผลกีวี่มีสีขาว
- โรคราสนิม เกิดจากเชื้อรา ทำให้ใบกีวี่มีจุดสีน้ำตาล
- โรคแอนแทรคโนส เกิดจากเชื้อรา ทำให้ผลกีวี่มีจุดสีน้ำตาล
- หนอนเจาะผล เป็นแมลงศัตรูพืชที่เจาะผลกีวี่ ทำให้ผลกีวี่เน่าเสีย
การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชสามารถทำได้ดังนี้
- ตัดแต่งกิ่งและกำจัดเศษซากพืชอย่างสม่ำเสมอ
- ฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
การปลูกกีวี่เป็นอาชีพที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ได้ดี กีวี่เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
กีวี่
กีวี่มีกี่สายพันธุ์
วิธีปลูกกีวี่
วิธีดูแลกีวี่
ประโยชน์ของผลไม้
ประโยชน์ของกีวี่
สรรพคุณของผลไม้
สรรพคุณของกีวี่
ผลไม้ตามฤดูกาล
รูปภาพผลไม้
รูปผลไม้
ราคาของกีวี่
กีวีราคากี่บาท
กีวี่คือ
รูปกีวี่
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม : fruitylove
อ่านบทความเกี่ยวกับผลไม้ได้ที่ : ส้มเขียวหวาน