fruitylover.com

มังคุด

ประวัติความเป็นมาของมังคุด

มังคุด มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มักได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” เนื่องจากมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ผลไม้ทรงกลมขนาดเล็กมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ได้รับความนิยมทั่วโลกในด้านรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพ

ผลมังคุดขึ้นชื่อในเรื่องเปลือกสีม่วง ซึ่งหนาและเป็นหนัง เมื่อเปิดออกมาจะเผยให้เห็นส่วนสีขาวฉ่ำคล้ายโครงสร้างของส้ม ผลไม้ได้รับการยกย่องอย่างสูงเนื่องจากมีรสหวานและมีรสเปรี้ยว ซึ่งมักอธิบายว่าเป็นส่วนผสมของรสสตรอเบอร์รี่ พีช และส้ม โดยทั่วไปบริโภคสด แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการสร้างสรรค์อาหารต่างๆ เช่น น้ำผลไม้ สมูทตี้ ขนมหวาน และแม้แต่อาหารคาว

นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยแล้ว มังคุดยังถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนโบราณมานานหลายศตวรรษเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ . อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแซนโทน ซึ่งเชื่อมโยงกับผลการส่งเสริมสุขภาพมากมาย สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยปกป้องร่างกายจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นและการอักเสบ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีส่วนทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมังคุด

มังคุดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 10-25 เมตร ลำต้นมีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรี กว้าง 6-11 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกสีแดง ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาด และ อายุของผล

ประโยชน์ต่อสุขภาพของมังคุด

มังคุด3

มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากมีส่วนประกอบที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสารสำคัญที่มีผลต่อร่างกาย นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญของมังคุดต่อสุขภาพ:  

  1. สารต้านอนุมูลอิสระ: มังคุดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงของการเกิดอันตรายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยลดอาการเสื่อมสภาพและช่วยรักษาสุขภาพเซลล์ต่าง ๆ  
  2. สารต้านเอนไซม์: มังคุดมีสารต้านเอนไซม์ที่ช่วยลดอาการบวมและอักเสบในร่างกาย เป็นประโยชน์ในการควบคุมอาการอักเสบและบวมเมื่อเกิดการบาดเจ็บหรืออาการอักเสบต่าง ๆ  
  3. วิตามินและแร่ธาตุ: มังคุดเป็นแหล่งของวิตามิน C, วิตามิน E และวิตามิน B ที่สามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, และโพแทสเซียมที่ช่วยในการรักษาความแข็งแรงของกระดูกและฟัน  
  4. การลดความเสี่ยงต่อโรค: การบริโภคมังคุดอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง  
  5. สารสกัดเคมีพืช: มังคุดมีสารสกัดที่มีฤทธิ์ต้านเอนไซม์และการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง การวิจัยกำลังศึกษาสารสกัดเหล่านี้เพื่อค้นหาผลกระทบทางการแพทย์  
  6. บำรุงผิวพรรณ: มังคุดมีสารต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยในกระบวนการหลบหนีความเสี่ยงจากอนุมูลอิสระที่ส่งผลให้เกิดอาการเสื่อมสภาพของผิว  
  7. สุขภาพทางเดินอาหาร: มังคุดมีสารที่ช่วยลดอาการท้องอืดและปวดท้อง ช่วยลดการอักเสบในทางเดินอาหารและช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหาร  
  8. สร้างพลังงาน: มังคุดเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่จำเป็น  

มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การบริโภคมังคุดอย่างสม่ำเสมอ เป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคในชีวิตประจำวัน

มังคุดมีกี่สายพันธุ์

มังคุดมีสายพันธุ์เดียวในโลก คือ พันธุ์พื้นเมือง ถึงแม้ว่าจะมีรายงานว่าพบมังคุดสายพันธุ์อื่นๆ อยู่บ้าง เช่น มังคุดเมืองนนท์ ที่มีผลเล็กและเปลือกบาง มังคุดปักษ์ใต้ ที่มีเปลือกหนา แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนพอที่จะแยกเป็นพันธุ์ได้

มังคุด4

มังคุดเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย นิยมปลูกในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก มังคุดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูงประมาณ 10-15 เมตร ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดเพียงพอ

การเตรียมพื้นที่ปลูก

ควรเลือกพื้นที่ราบเรียบ ระบายน้ำได้ดี พื้นที่ปลูกควรมีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 8×8 เมตร เพื่อให้ต้นมีทรงพุ่มที่แผ่กว้างและสามารถให้ผลผลิตได้ดี

มังคุด5

การเตรียมต้นกล้า

ต้นกล้ามังคุดสามารถหาได้จากการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ การเพาะเมล็ดใช้เวลานานประมาณ 2 ปีจึงจะได้ต้นกล้าที่พร้อมปลูก แต่การปักชำใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงจะได้ต้นกล้าที่พร้อมปลูก ต้นกล้าที่นำมาปลูกควรมีอายุประมาณ 1 ปีขึ้นไป

การปลูก

การปลูกมังคุดควรทำในช่วงต้นฤดูฝน โดยขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมประมาณ 10 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากันกับดิน จากนั้นนำต้นกล้าลงปลูกในหลุม และกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม

การดูแลรักษา

การให้น้ำ
มังคุดเป็นไม้ผลที่ต้องการน้ำมาก ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง

การให้ปุ๋ย
มังคุดต้องการปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นและผลผลิต ควรให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 2-3 กิโลกรัมต่อต้น ทุก 3 เดือน

การตัดแต่งกิ่ง
การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ต้นมังคุดมีทรงพุ่มที่โปร่ง ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี และทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดียิ่งขึ้น ควรตัดแต่งกิ่งในช่วงปลายฤดูฝนหรือต้นฤดูหนาว

การกำจัดวัชพืช
ควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นบริเวณโคนต้นมังคุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากต้นมังคุด

การป้องกันกำจัดศัตรูพืช

มังคุดมีศัตรูพืชที่สำคัญ ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย ด้วงเจาะผล แมลงหวี่ขาว และแมลงสาบ การป้องกันกำจัดศัตรูพืชควรใช้สารเคมีอย่างระมัดระวังและควรศึกษาข้อมูลการใช้อย่างละเอียด

การเก็บเกี่ยว
มังคุดจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม และจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มังคุดสุกเต็มที่จะมีกลิ่นหอม เนื้อสีขาวนวล รสชาติหวานอมเปรี้ยว

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม :: fruitylove

โฟสที่เกี่ยวข้อง